การจัดลำดับความสำคัญของงาน


Background photo was designed by rawpixel.com / Freepik

ในชีวิตจริงมนุษย์มีกิจกรรมที่ต้องทำหลายอย่างในช่วงเวลาที่มีจำกัด เช่น งานที่ต้องทำในแต่ละวัน, หนังสือที่ต้องอ่านในแต่ละเทอม, สิ่งที่อยากทำในชีวิตหนึ่งก่อนตาย ฯลฯ การบริหารเวลา จึงหมายถึงการจัดสรรเงวลาให้กับกิจกรรมเหล่านั้น แต่โดยมาก เวลาที่มี มักจำกัด และไม่เพียงพอสำหรับกิจกรรมทั้งหมด เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงจำเป็นต้องมีการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมเหล่านั้น แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำก่อนการจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรม คือการใส่ใจ พิจารณาให้รู้ชัดว่า กิจกรรมที่ว่าเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

 การวิเคราะห์จำแนกกิจกรรมที่ต้องทำ (Job breakdown) อาศัยความเข้าใจต่อสถานการณ์อย่างถ่องแท้ เพื่อแจกแจงรายการของสิ่งที่ต้องทำให้ครบถ้วน เช่น คนที่ไม่มีประสบการ์ในการจัดงานแต่งงานก็ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวหรือทำอะไรบ้าง แต่คนที่มีประสบการณ์สามารถแจกแจงราบการงานได้อย่างเป็นขั้นเป็นตอน 

 ชีวิตของแต่ละคนก็เช่นกัน ถ้าเราใส่ใจ และทำความเข้าใจให้ชัดแจ้งมากขึ้นเพียงใด จะสามารถตอบเป้าหมายชีวิตของตนเองได้ชัดเจนยิ่งขึ้นเพียงนั้น แล้วก็จะเห็นว่า สิ่งที่มีค่า มีความหมาย มีความสำคัญ ที่ควรทำในแต่ละช่วงของชีวิตหนึ่งนี้ มีอะไรบ้าง

เมื่อสามารถระบุรายการกิจกรรมที่จำเป็นต้องทำในแต่ละช่วงเวลาได้แล้ว ทั้งที่เป็นกิจกรรมส่วนตัว งานในหน้าที่ หรือสิ่งที่ควรทำต่อบุคคลและสังคมรอบตัว ได้ครบถ้วนที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้แล้ว จึงพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของกิจกรรมเหล่านั้น ซึ่งอาจ มีการเปลี่ยนแปลงตามช่วงเวลาของชีวิต หรือสถานการณ์ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง ลำดับความสำคัญของกิจกรรมจึงควรชัดเจน แต่ไม่ตายตัว 


 การจัดลําดับความสําคัญและความเร่งด่วนในการทํางานจะ ต้องแยกแยะให้ชัดแจ้ง มีหลักดังต่อไปนี้ 

   - จัดทําบัญชีรายชื่องานเก่า งานใหม่ งานที่ไม่คาดคิด และ งานที่เกิดขึ้นเป็นประจํา 
   - จัดประเภทของงาน ได้แก่ งานตามเวลา งานไม่ตามเวลา งานเร่งด่วน งานไม่เร่งด่วน งานสําคัญ และงานไม่สําคัญ 
   - จัดลําดับงานโดยเรียงตามลําดับ คือ งานตามเวลา งาน เร่งด่วน งานสําคัญ และงานที่เหลือทั้งหมด 
   - จัดตารางปฏิบัติงานโดยเริ่มจากลงตารางจากงานตาม เวลา งานเร่งด่วน และงานสําคัญรวมทั้งงานที่เหลือทั้งหมด 
   - ปฏิบัติงานตามตารางเวลาที่กําหนด 
   - ประเมินผลงาน เป็นการประเมินผลว่าในรอบวันได้ปฏิบัติ งานตามที่กําหนดครบถ้วนหรือไม่เพียงใด หากมีงานใดที่ยังคงคั่งค้าง ให้ระบุงานนั้นเพื่อนําไปวางแผนในวันต่อไป 
   - จัดทําบัญชีรายชื่องานเก่าที่ค้างตามข้อ 6 งานใหม่ งานที่ ไม่คาดคิด งานที่เกิดประจํา และดําเนินการวางแผนตามข้อ 2 และข้อ อื่นๆ ตามลําดับ 


การจัดลำดับความสำคัญของงานแบบไอเซนฮาวร์

การจัดลำดับความสำคัญของงานแบบไอเซนฮาวร์ เป็นแนวคิด ประเมินตามเกณฑ์ตามความสำคัญ-ไม่สำคัญ, เร่งด่วน-ไม่ เร่งด่วน โดยวาดตารางแบ่งออกเป็นช่องต่างๆ โดยลดการมุ่งเน้นงานที่ไม่สำคัญและไม่เร่งด่วนลง และมุ่งเน้นไปยังงานที่สำคัญและเร่งด่วนที่สำคัญ งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วนอาจมอบหมายให้คนอื่นทำแทน ส่วนงานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วนอาจทำในช่วงท้ายของวันหรือช่วงเวลาส่วนตัว ซึ่งเป็นแนวคิดที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ นำมาใช้ โดยจำแนกงานเป็น 4 ประเภท คือ

  1. งานสำคัญและเร่งด่วน : งานกลุ่มนี้จะเป็นงานที่ ถ้าไม่ดำเนินการก็จะมีปัญหาหรือเกิดวิกฤตขึ้น อาจเกิดผลกระทบมากมายไม่ คุ้มที่จะรอไว้ก่อน ควรดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งคงตัดสินใจกันไม่ยาก 
  2. งานสำคัญแต่ไม่เร่งด่วน : งานกลุ่มนี้มักจะถูกละเลยเพราะเป็นงานที่ไม่เร่งด่วน แต่มีความสำคัญเรื่องเป้าหมายและเป็นงานที่อยู่ ในแผนงานกลยุทธ์แต่เนื่องจากพอมีเวลา จึงไม่ค่อยมีใครหยิบมาทำเท่าไรนักพอเวลาผ่านไปจึงกลายเป็น งานสำคัญที่เร่งด่วนไปทุกที ดังนี้ งานประเภทนี้ควรได้รับความสนใจอยากต่อเนื่องแล้วดำเนินการตาม แผนที่กำหนดไว้ให้ได้ เช่น งานด้านการพัฒนา งานนโยบาย งานที่ผู้นำดำเนินการไว้ให้ผู้อื่น งานที่เป็น แผนระยะกลางและระยะยาว ผู้นำที่ดีมักจะทำงานประเภทนี้ไว้และให้ความสำคัญเพราะถ้าปล่อยเวลา ผ่านไปอาจลืมแล้วไม่ได้ทำ สุดท้ายจะส่งผลกระทบกับเป้าหมายได้
  3. งานไม่สำคัญแต่เร่งด่วน : คนส่วนใหญ่ถูกผลักดันให้ทำงานกลุ่มนี้มากที่สุดเพราะเป็นงานที่แทรกกับงานที่ทำตามแผนอยู่สาเหตุ ที่เกิดเหตุการณ์นี้เพราะเราไม่ค่อยมีแผนงานหรือไม่ค่อยไดทำตามแผนทำให้มีงานด่วนเข้ามาได้ เรื่อยๆ ดังนั้น เราควรปฏิเสธงานด่วนที่เข้ามาบ้าง ถ้าไม่ใช่งานวิกฤตเพื่อให้เราสามารถทำงานตามแผนที่วางไว้ ได้ครบ งานประเภทนี้ เช่น การประชุมที่ไม่ได้นัดหมาย ,งานที่คนอื่นขอร้องให้ทำ ,งานที่ล่าช้าจากส่วน งานอื่นๆแล้วมาเร่งเรา ,งานที่เราทำได้งานแต่ไม่ได้อยู่ตามแผน ควรทำงานประเภทนี้ให้น้อยลงนะครับจะ ได้มีเวลาทำงานสำคัญมากขึ้นครับ 
  4. งานไม่สำคัญและไม่เร่งด่วน : งานนี้ถ้าไม่จำเป็นก็ควรจัดอยู่ในลำดับหลังๆหรือมีช่วงเวลาที่จะดำเนินการให้ชัดเจน เช่น โทรศัพท์ ทั่วไป ,e-mail ,งานสังสรรค์ , การพูดคุยเรื่องทั่วไป เป็นต้น เราเสียงเวลากับงานประเภทนี้ไป ค่อนข้างมาก จึงมีเวลาเหลือในการทำงานสำคัญน้อย แล้วจะรู้สึกว่างานยุ่งมากแต่ได้ผลผลิตน้อยเหลือเกิน และไม่ได้ตามเป้าด้วย

Build a web page with Mobirise