การตัดสินคุณค่า
ของคน - งาน - การเรียน


Background photo was designed by rawpixel.com / Freepik

บทเรียนหนึ่ง คือการไม่ตัดสินผู้อื่น
อีกบทเรียน คือการถูกผู้อื่นตัดสิน อยู่เสมอ

เมื่อเราทำงานด้วยความตั้งใจที่ดี ที่ถูกทาง และมีปฏิบัติการที่เหมาะสมลงตัว ผลของงานก็จะปรากฏขึ้น ผลงานนั้นเองที่จะถูกประเมินคุณค่า ถูกตีราคา เป็นคำชื่นชม เป็นค่าจ้าง เป็นรางวัล เป็นผลคะแนน ฯลฯ ด้วยมาตรวัดที่ต่างๆ กันไป

เราจะมีท่าทีอย่างไร กับการถูกตัดสินคุณค่า ด้วยสายตา และมาตรวัดอันหลากหลาย


ก็ในเมื่อคนเรา เข้าใจและให้ความหมายของงานแตกต่างกัน อย่างที่สมเด็จพระพุทธโฆษาจารย์ ได้อธิบายไว้แล้วนั้น ความแตกต่างนั้นมิได้ส่งผลต่อพฤติกรรม และความสุขของคนๆ นั้น เท่านั้น แต่ยังส่งผลต่อการวิพากษ์ ตัดสิน ตีค่า ที่มีต่องาน และการทำงาน ของคนอื่นๆ ด้วย


ยกตัวอย่างเช่น คนที่เห็นคุณค่าของงานมุ่งไปที่ผลตอบแทน เมื่อเห็นใครที่ทำงานน้อย ได้ผลตอบแทนมาก ก็ชื่นชม ให้คุณค่า ว่าเป็นคนเก่ง คนฉลาด ส่วนใครที่ทุ่มเททำงานแม้มีค่า มีประโยชน์ แต่ได้เงินน้อย ไร้ชื่อเสียง ก็ตัดสินว่าไม่ฉลาด เป็นคนโง่ 



คนทีให้ค่าของคน อยู่ที่ผลของงาน เมื่อเห็นใครทำงานสำเร็จก็ยกย่อง ให้เกียรติ เหมือนอย่างครูที่ตัดสินคุณค่าของนักเรียนที่ผลการสอบ ไม่ว่าเด็กคนนั้นจะตั้งใจเรียนหรือไม่ มีพฤติกรรมอย่างไร ได้คะแนนมาด้วยวิธีใด ก็ไม่สำคัญเสียแล้ว


คนที่ให้คุณค่าของการทำงานอยู่ที่การพัฒนาตน เมื่อเห็นคุณค่าของการทำงานของตนฉันใด ก็เห็นคุณค่าของการทำงานของผู้อื่นได้ฉันนั้น เมื่อตนไม่ตัดสินตนเพียงเพราะความสำเร็จหรือราคาค่าตอบแทน ก็ไม่อาจด่วนตัดสินคนอื่นเพียงเพราะผลของงานหรือผลตอบแทนที่เขาได้รับ ในทำนองเดียวกัน คนที่มองงานด้วยทัศนะเช่นนี้ ย่อมเอื้อโอกาสให้เขามีมุมมองต่อคนรอบตัวว่าทุกคนก็คือผู้ที่กำลังเรียนรู้ และมีคุณค่าคู่ควรที่จะเป็นแบบอย่างให้คนอื่นได้เรียนรู้ด้วย ในทางใดทางหนึ่ง แม้ว่างานของเขาจะผิดพลาดล้มเหลว ก็ยังเห็นคุณค่าของการพยายามนั้นและเห็นโอกาสที่จะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดนั้น เขาจึงมองทุกคนเป็นครู มองทุกสิ่งเป็นโอกาสเรียนรู้ ที่ประเทศสวีเดน จึงมี Museum of Failure ที่แสดงความพยายามที่ล้มเหลวให้ผู้คนได้เรียนรู้ว่า ทุกความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ ไม่ว่า iPhone หรือ Ford Mustang ก็ล้วนแต่ต้องผ่านความผิดพลาดและล้มเหลวมาก่อน และเพราะการกล้าที่จะผิดพลาด แล้วยอมรับ เรียนรู้นั่นเอง ที่ทำให้เกิดนวัตกรรม และความเจริญก้าวหน้า ประสบความสำเร็จได้ในที่สุด


ถ้าเราอยู่ในฐานะของผู้ออกแบบระบบประเมินคุณค่าของคน หรืองาน เราจำเป็นต้องมีความเข้าใจต่อชีวิตคน และคุณค่า ความหมายของงาน อย่างถ่องแท้ จึงจะสามารถสร้างแบบวัดประเมินที่ใกล้เคียงความจริง และเที่ยงตรง เป็นธรรม

แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ต้องยอม รับว่าชีวิตของคน และคุณค่าของการทำงาน มีความลึกซึ้ง ซับซ้อน มีมิติแง่มุมที่หลากหลาย ดังนั้น จึงไม่สามารถสร้างแบบวัดที่จะตีค่าของคน หรืองานของคน ได้อย่างแท้จริง


ในทางกลับกัน เมื่อเราอยู่ในฐานะของผู้ถูกประเมิน ไม่ว่านักเรียนที่ถูกประเมินด้วยการสอบ หรือผู้ปฏิบัติงานที่ถูกประเมินด้วย KPI (Key Performance Index) หรือมาตรวัดความสำเร็จชนิดต่างๆ ก็ต้องไม่เผลอที่จะตกไปในกำดักความคิดที่ว่า เรากำลังเรียนหรือทำงานเพียงเพื่อเป้าหมาย คือการผ่านเกณฑ์การวัดประเมินเหล่านี้ เพราะแท้ที่จริงแล้ว การเรียนหรือการทำงานมีค่าในตัวของมันเอง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องเลี้ยงชีวิต เป็นทางแห่งความก้าวหน้า เป็นโอกาสสร้างคุณค่าทำประโยชน์ และเป็นเวทีในการพัฒนาตน 

คนมีปัญญา ย่อมมีเป้าหมายที่ดีในงานของตน แล้วทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อเป้าหมายนั้น โดยรู้เท่าทันเกณฑ์วัดประเมินด้วย 
 ถ้าเกณฑ์วัดประเมินมีความเที่ยงตรง เป็นธรรม การวัดประเมินนั้นก็ย่อมสะท้อนความจริงได้ดี ผู้เรียน หรือผู้ปฏิบติงาน ก็ไม่ต้องกังวลกับการวัดประเมิน เพียงทำหน้าที่ต่อตัวงาน หรือการเรียนของตนนั้นให้เต็มที่ ผลก็ประเมินก็จะดีไปเอง

แต่ถ้าสังคมนั้นมีเกณฑ์การวัดประเมินที่ไม่เที่ยงตรง ไม่เป็นธรรม คนมีปัญญาก็ต้องพิจารณาว่าจะทำอย่างไร ให้งานก็ได้ผลดี และผลการประเมินก็ดีด้วย แต่ถ้าถึงที่สุด หากสองสิ่งนั้นขัดแย้งกันเอง คนมีปัญญาก็จะเลือกว่าจะให้ค่ากับสิ่งใดมากกว่ากัน ...
 ที่สำคัญคือการเลือกนั้นเกิดขึ้นจากปัญญาที่รู้ชัด และเต็มใจ จึงไม่ก่อให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ หรือติเตียนตนเองได้

การประเมิน ไม่ใช่การตัดสินคนอื่น
ว่าดีหรือเลว ตามความรู้ ความคิด ความเชื่อ ของเรา

แต่คือการหาข้อมูล เพื่อเอื้อต่อการพัฒนา
ทั้งในระดับบุคคล และสังคม

เพลง ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน   |  คอนเสิร์ตเพลงประภาส 3  |  7  นาที
ขับร้องโดย รัดเกล้า อามระดิษ    รำลึกถึงคุณสืบ นาคะเสถียร

"ข้างหลังเพลงไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน"  โดยผู้แต่งเพลง [ประภาส ชลศรานนท์ ศิลปินแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2561 สาขาศิลปะการแสดง ประเภทดนตรีสากลและนาฏศิลป์สากล (ผู้สร้างสรรค์งานบันเทิงและดนตรีไทยสากล) นักคิด นักเขียน นักแต่งเพลง ผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน)]


ผู้หญิงที่ บิล เกตส์ ยกย่อง เธอไม่เคยหยุดความตั้งใจที่จะช่วยเหลือมวลมนุษยชาติ จนได้รับรางวัลแมกไซไซ

เรื่องราวการเดินทางไร้พรมแดนของ ศ.ภญ.ดร.กฤษณา ไกรสินธุ์ ได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน 

#Forwardyourwisdom #10thAnniversarythewisdom


This web page was started with Mobirise templates