ไปยังหน้า : |
เมื่อได้แสดงการเกิดขึ้นของรูปธรรมจากสมุฏฐานทั้ง ๔ ในกามภูมิแล้ว พระพุทธองค์จึงได้ทรงแสดงความเป็นไปของรูปธรรมเหล่านั้น ดังพระบาลีในสคาถวรรค ยักขสังยุตตว่า “อิจฺเจวํ ปฏิสนฺธิมุปาทาย กมฺมสมุฏฺานา ทุติยจิตฺตมุปาทาย จิตฺตสมุฏฺานา ติกาลมุปาทาย อุตุสมุฏฺานา โอชาผรณมุปาทาย อาหารสมุฏฺานา เจติ จตุสมุฏฺานรูปกลาปสนฺตติ กามโลเก ทีปชาลา วิย นทีโสโต วิย จ ยาวตายุกมพฺโภจฺฉินฺนา ปวตฺตติ”รุ.๖๗๓
แปลความว่า โดยนัยดังที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ กัมมชรูปย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่อุปปาทักขณะของปฏิสนธิจิต จิตตชรูปย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ปฐมภวังค์ อุตุชรูปย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ฐีติขณะของปฏิสนธิจิต อาหารชรูปย่อมเกิดขึ้นตั้งแต่ขณะที่อาหารแผ่ซึมซาบเข้าไปในร่างกาย การสืบต่อแห่งรูปกลาปที่เกิดจากสมุฏฐานทั้ง ๔ ในกามภูมินี้ ย่อมเกิดได้อย่างไม่ขาดสาย จนตลอดชีวิต ประหนึ่งกระแสไฟฟ้าและกระแสน้ำ ฉันนั้น