ไปยังหน้า : |
ปฐมราคสูตร
[ว่าด้วยการละราคะในสิ่งที่ไม่เที่ยง]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าไม่เที่ยง ดูกรภิกษุทั้งหลายจักษุไม่เที่ยง เธอทั้งหลาย พึงละราคะในจักษุนั้นเสีย หูไม่เที่ยง จมูกไม่เที่ยง ลิ้นไม่เที่ยง กายไม่เที่ยง ใจไม่เที่ยง ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย
ปฐมฉันทราคสูตร
[ว่าด้วยการละฉันทราคะในสิ่งที่ไม่เที่ยง]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลาย พึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าไม่เที่ยง ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในจักษุนั้นเสีย หูไม่เที่ยง จมูกไม่เที่ยง ลิ้นไม่เที่ยง กายไม่เที่ยง ใจไม่เที่ยง ฯลฯ เธอทั้งหลาย พึงละฉันทราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดไม่เที่ยง เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย
ทุติยฉันทสูตร
[ว่าด้วยการละฉันทะในสิ่งที่เป็นทุกข์]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าเป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นทุกข์ จมูกเป็นทุกข์ ลิ้นเป็นทุกข์ กายเป็นทุกข์ ใจเป็นทุกข์ ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในสิ่งนั้นเสีย
ทุติยราคสูตร
[ว่าด้วยการละราคะในสิ่งที่เป็นทุกข์]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าเป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละราคะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นทุกข์ จมูกเป็นทุกข์ ลิ้นเป็นทุกข์ กายเป็นทุกข์ ใจเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย
ทุติยฉันทราคสูตร
[ว่าด้วยการละฉันทราคะในสิ่งที่เป็นทุกข์]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลาย พึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าเป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นทุกข์ จมูกเป็นทุกข์ ลิ้นเป็นทุกข์ กายเป็นทุกข์ ใจเป็นทุกข์ ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นทุกข์ เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย
ตติยฉันทสูตร
[ว่าด้วยการละฉันทะในสิ่งที่เป็นอนัตตา]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงละฉันทะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าเป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นอนัตตา จมูกเป็นอนัตตา ลิ้นเป็นอนัตตา กายเป็นอนัตตา ใจเป็นอนัตตา ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลายสิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทะในสิ่งนั้นเสีย
ตติยราคสูตร
[ว่าด้วยการละราคะในสิ่งที่เป็นอนัตตา]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่าเป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นอนัตตา เธอทั้งหลาย พึงละราคะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นอนัตตา จมูกเป็นอนัตตา ลิ้นเป็นอนัตตา กายเป็นอนัตตา ใจเป็นอนัตตา ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละราคะในสิ่งนั้นเสีย
ตติยฉันทราคสูตร
[ว่าด้วยการละฉันทราคะในสิ่งที่เป็นอนัตตา]
ดูกรภิกษุทั้งหลาย สิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็สิ่งไรเล่า เป็นอนัตตา ดูกรภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในจักษุนั้นเสีย หูเป็นอนัตตา จมูกเป็นอนัตตา ลิ้นเป็นอนัตตา กายเป็นอนัตตา ใจเป็นอนัตตา ฯลฯ เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในใจนั้นเสีย ดูกรภิกษุทั้งหลายสิ่งใดเป็นอนัตตา เธอทั้งหลายพึงละฉันทราคะในสิ่งนั้นเสีย