ไปยังหน้า : |
สัมมาอาชีวเจตสิก อยู่ในกลุ่ม โสภณราสี คือ หมวดโสภณเจตสิก ๒๕ เป็น วิรตีเจตสิก คือ สภาวธรรมที่ทำการงดเว้นจากกายทุจริตและวจีทุจริตที่เกี่ยวกับอาชีพ คือ เกี่ยวกับการแสวงหาปัจจัยมาเลี้ยงในทางที่มิชอบธรรม สัมมาอาชีวเจตสิกนี้จึงเกิดขึ้นเพื่อทำการงดเว้นจากทุจริตทุราชีพนั้น
สัมมาอาชีวเจตสิกนี้ เป็น อนิยตโยคีเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้ไม่แน่นอน หมายความว่า เมื่อระบุไว้ว่า ประกอบกับจิตดวงใดแล้ว แต่เมื่อจิตดวงนั้นเกิดขึ้น อาจมีสัมมาอาชีวเจตสิกประกอบร่วมด้วยก็มี ไม่ประกอบร่วมด้วยก็มี และเป็นเจตสิกจำพวก นานากทาจิเจตสิก คือ ซึ่งเป็นเจตสิกที่ประกอบกับจิตได้เป็นบางครั้งบางคราวและเวลาประกอบก็ประกอบไม่พร้อมกัน ได้แก่ ในขณะที่ประกอบมหากุศลจิต ๘ ดวง ส่วนที่ประกอบกับโลกุตตร จิต ๘ หรือ ๔๐ ดวงนั้น เป็นเจตสิกประเภท นิยตโยคีเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้โดยแน่นอน และประกอบพร้อมกันเสมอ จึงเรียกว่า นิยตเอกโตโยคีเจตสิก
สัมมาอาชีวเจตสิก เมื่อเกิดขึ้นแล้ว ย่อมสามารถงดเว้นจากกายทุจริต ๓ และวจีทุจริต ๔ ที่เป็นโลกียะ คือ เป็นไปในชีวิตประจำวัน ซึ่งเป็นการงดเว้นโดยสัมปัตตวิรัติ คือ ในขณะประสบกับเหตุเฉพาะหน้าก็ดี หรืองดเว้นโดยสมาทานวิรัติ คือ ด้วยการสมาทานตั้งใจไว้ก่อนก็ดี ได้แก่ สัมมาอาชีวเจตสิกที่ประกอบกับมหากุศลจิต ๘ ส่วนสัมมาอาชีวเจตสิกที่ประกอบกับโลกุตตรจิตนั้น ย่อมกระทำกิจ คือ การประหาณอนุสัยกิเลสที่เป็นเหตุให้กระทำกายทุจริตและวจีทุจริตที่เกี่ยวกับอาชีพโดยเด็ดขาด เรียกว่า สมุจเฉทปหาน เป็นการตัดกิเลสให้ขาดจากขันธสันดาน ไม่สามารถเกิดขึ้นได้อีกต่อไป
สัมมาอาชีวเจตสิก ประกอบกับจิตได้ ๑๖ หรือ ๔๘ ดวง คือ มหากุศลจิต ๘ และโลกุตตรจิต ๘ หรือ ๔๐ ในขณะที่ประกอบกับมหากุศลจิตนั้นประกอบเป็นบางครั้งบางคราวและประกอบไม่พร้อมกัน เรียกว่า นานากทาจิเจตสิก แต่ในขณะที่ประกอบกับโลกุตตรจิต ๘ หรือ ๔๐ นั้น ย่อมประกอบโดยแน่นอนและพร้อมเพรียงกัน เรียกว่า นิยตเอกโตโยคีเจตสิก
สัมมาอาชีวเจตสิก ย่อมเกิดพร้อมกับเจตสิกได้ ๓๓ หรือ ๓๕ ดวง คือ
ในขณะที่ประกอบกับมหากุศลจิตนั้น ย่อมเกิดพร้อมกับเจตสิกได้ ๓๓ ดวง ได้แก่ อัญญสมานเจตสิก ๑๓ โสภณสาธารณเจตสิก ๑๙ และปัญญินทรียเจตสิก ๑
ในขณะที่ประกอบกับโลกุตตรจิตนั้น ย่อมเกิดพร้อมกับเจตสิก ๓๕ ดวง ได้แก่ อัญญสมานเจตสิก ๑๓ โสภณสาธารณเจตสิก ๑๙ สัมมาวาจาเจตสิก ๑ สัมมากัมมันตเจตสิก ๑ และปัญญินทรียเจตสิก ๑