ไปยังหน้า : |
มานเจตสิก อยู่ในกลุ่ม อกุศลราสี คือ หมวดแห่งอกุศลเจตสิก ๑๔ เป็น โลติกเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบได้เฉพาะในทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวงซึ่งอยู่ในกลุ่มโลภมูลจิตเท่านั้น
มานเจตสิก เป็น อนิยตโยคีเจตสิก คือ เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้โดยไม่แน่นอน หมายความว่า เมื่อระบุว่า ประกอบกับทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวง เมื่อทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวง ดวงใดดวงหนึ่งเกิดขึ้น อาจมีมานเจตสิกประกอบร่วมด้วยก็ได้ ไม่ประกอบร่วมด้วยก็มี เรียกว่า กทาจิเจตสิก แปลว่า เจตสิกที่ประกอบกับจิตได้เป็นบางครั้งบางคราว
ถ้าทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวง ดวงใดดวงหนึ่งเกิดขึ้นโดยมีความถือตัวถือตนหรือมีการเปรียบเทียบระหว่างตนเองกับบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นแล้ว ในขณะนั้น ย่อมมีมานเจตสิกเกิดร่วมด้วย แต่ถ้าทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวงนั้น เกิดขึ้นโดยอาศัยความโลภ ความยินดีติดใจในอารมณ์อย่างเดียว โดยไม่มีความเย่อหยิ่งถือตัว หรือไม่มีการเปรียบเทียบระหว่างตนเองกับบุคคลอื่นหรือสิ่งอื่นแต่ประการใด ในขณะนั้น มานเจตสิกย่อมไม่เข้าประกอบร่วมด้วย
มานเจตสิกย่อมเกิดร่วมกับเจตสิกได้ ๒๐ ดวง [เว้นมานะ] คือ
เมื่อประกอบกับทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ดวง ย่อมเกิดพร้อมกับอัญญสมานเจตสิก ๑๓ โมจตุกเจตสิก ๔ โลภเจตสิก ๑ ถีทุกเจตสิก ๒
มานเจตสิก บุคคลย่อมละได้โดยเด็ดขาด ด้วยอำนาจแห่งอรหัตตมรรคญาณ ส่วนมรรคญาณอื่น ๆ ย่อมสามารถละมานะได้เป็นบางส่วนเท่านั้น คือ
โสดาปัตติมรรคญาณ ย่อมละมานเจตสิก ที่ประกอบกับทิฏฐิวิปปยุตตจิต ๔ ที่เป็นประเภทอยาถาวมานะ คือ ความถือตัวที่ไม่เป็นไปตามความเป็นจริง ได้โดยเด็ดขาด เรียกว่า สมุจเฉทปหาน
สกิทาคามิมรรคญาณ ย่อมละมานเจตสิก ที่ประกอบกับทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ที่เป็นประเภทยาถาวมานะ คือ การถือตัวที่เป็นไปตามความเป็นจริง บางประการโดยการทำให้เบาบาง เรียกว่า ตนุกรปหาน
อนาคามิมรรคญาณ ย่อมละมานเจตสิก ที่ประกอบกับทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ที่เป็นประเภทยาถาวมานะ บางประการ โดยทำให้เบาบาง เรียกว่า ตนุกรปหาน
อรหัตตมรรคญาณ ย่อมละมานเจตสิก ที่ประกอบกับทิฏฐิคตวิปปยุตตจิต ๔ ทั้งหมดโดยเด็ดขาด เรียกว่า สมุจเฉทปหาน
เพราะฉะนั้น พระอรหันต์เท่านั้น ที่สามารถชำระล้างมานเจตสิกให้หมดสิ้นจากขันธสันดานได้โดยเด็ดขาด เป็นสมุจเฉทปหาน