ไปยังหน้า : |
อรูปาวจรกุศลจิต ๔ ย่อมเกิดได้กับบุคคล ๔ จำพวก คือ ติเหตุกปุถุชน ๑ และพระเสกขบุคคล ๓ ที่ได้รูปาวจรปัญจมฌานมาแล้ว ในกามสุคติภูมิ ๗ รูปภูมิ ๑๕ [เว้นอสัญญสัตตภูมิ] และในอรูปภูมิ ๔ นั้น อรูปาวจรกุศลจิต ๔ ย่อมเกิดได้ตามสมควรแก่บุคคลในภูมินั้น ๆ ดังกล่าวแล้วในเรื่องการจำแนกอรูปาวจรจิตโดยภูมิ
อรูปาวจรวิปากจิต ๔ ย่อมเกิดได้กับบุคคล ๕ จำพวก คือ ติเหตุกปุถุชน ๑ และอริยบุคคล ๔ ที่เกิดอยู่ในอรูปภูมิ ๔ ตามสมควรแก่บุคคลในภูมินั้น ๆ หมายความว่า บุคคล ๑ ก็มีอรูปาวจรวิปากจิตได้ ๑ ดวง เฉพาะที่นำบุคคลนั้นไปเกิดในอรูปภูมิชั้นนั้นๆ เท่านั้น ดังกล่าวแล้วในเรื่องการจำแนกอรูปาวจรจิตโดยภูมิ
อรูปาวจรกิริยาจิต ๔ ย่อมเกิดได้กับพระอรหันตบุคคล ๑ ที่อยู่ในกามสุคติภูมิ ๗ รูปภูมิ ๑๕ [เว้นอสัญญสัตตภูมิ] และที่อยู่ในอรูปภูมิ ๔ นั้น อรูปาวจรกิริยาจิต ย่อมเกิดได้ตามสมควรแก่พระอรหันต์ที่อยู่ในภูมิชั้นนั้น ๆ ลดหลั่นกันขึ้นไป หมายความว่า พระอรหันต์ที่อยู่ในอรูปภูมิที่ต่ำกว่า ย่อมสามารถเจริญอรูปฌานตั้งแต่ชั้นที่ตนเคยได้แล้วนั้นเป็นต้นไปจนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน ส่วนพระอรหันต์ที่อยู่ในอรูปภูมิชั้นสูงกว่าจะไม่ทำอรูปฌานที่ต่ำว่าฌานที่ตนเคยได้แล้ว เพราะฉะนั้น พระอรหันต์ที่อยู่ในอากาสานัญจายตนภูมิ ย่อมสามารถทำอรูปฌานกิริยาได้ทั้ง ๔ ชั้น พระอรหันต์ที่อยู่ในวิญญาณัญจายตนภูมิ ย่อมสามารถทำอรูปฌานกิริยาได้ ๓ ชั้น [เว้นอากาสานัญจายตนฌานกิริยา] พระอรหันต์ที่อยู่ในอากิญจัญญายตนภูมิ ย่อมสามารถทำอรูปฌานกิริยาได้ ๒ ชั้น คือ อากิญจัญญายตนฌานกิริยาและเนวสัญญานาสัญญายตนฌานกิริยา พระอรหันต์ที่อยู่ในเนวสัญญานาสัญญายตนภูมิ ย่อมสามารถทำเนวสัญญานาสัญญายตนฌานกิริยาได้อย่างเดียวเท่านั้น