ไปยังหน้า : |
ในการที่จะกระทำกุศลให้สำเร็จบริบูรณ์ได้นั้น ต้องอาศัยเจตนาเป็นหลัก เป็นประธาน เพราะเจตนาเป็นตัวจัดแจงปรุงแต่งให้เกิดกรรมทุกอย่าง ฉะนั้น ผู้จะทำกุศลให้เกิดขึ้นอย่างครบบริบูรณ์ได้นั้น จึงต้องปรับปรุงเจตนาให้ดีอยู่เสมอ คือ
๑. บุพพเจตนา เจตนาก่อนทำ หมายความว่า ต้องมีความตั้งใจอย่างมั่นคงที่จะทำกุศลนั้น ๆ ให้สำเร็จลงไปด้วยดี โดยไม่บกพร่อง
๒. มุญจนเจตนา เจตนาในขณะทำ หมายความว่า ต้องมีความตั้งใจในการกระทำกุศลนั้น ๆ อย่างจริงจังและจริงใจ ไม่เสแสร้งหรือแกล้งทำ หรือจำใจทำ
๓. อปรเจตนา เจตนาหลังจากทำเสร็จใหม่ ๆ หมายความว่า ต้องสร้างความภาคภูมิที่ได้ทำสิ่งนั้นลงไปแล้ว โดยไม่เสียดาย หรือขัดข้องหมองใจ หรือยึดติดด้วยอำนาจอกุศลธรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง ด้วยการปรับปรุงจิตให้ผ่องใสอยู่เสมอ
๔. อปราปรเจตนา เจตนาหลังจากทำเสร็จไปแล้ว หมายความว่า หลังจากได้ทำกุศลนั้น ๆ เสร็จไปแล้ว เป็นนาที เป็นชั่วโมง เป็นวัน เป็นเดือน เป็นปี หรือ ในกาลอื่นหลังจากทำกุศลนั้น ๆ เสร็จไปแล้ว ไม่ว่าจะช้านานเพียงใดก็ตาม แต่คราวใดที่ปรารภถึงการกระทำนั้นก็ดี ย่อมปรารภถึงสิ่งที่ใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำก็ดี ก็พยายามประคับประคองสภาพความรู้สึกนั้นให้ดีและสร้างความภาคภูมิใจที่ได้ทำสิ่งนั้นลงไป โดยไม่ให้อกุศลเข้ามาแทรกแซงได้
เมื่อกระทำได้ดังนี้ มหากุศลจิตย่อมเกิดได้อย่างสม่ำเสมอและมีกำลังมากขึ้น