ไปยังหน้า : |
ในคัมภีร์วิสุทธิมรรคและวิมุตติมรรค ได้แบ่งปีติออกเป็น ๕ ประเภท คือ
๑. ขุททกาปีติ คือ ความปลาบปลื้มใจเพียงเล็กน้อย ซึ่งมีสภาพทำให้ขนในร่างกาย เกิดอาการลุกชูชันได้
๒. ขณิกาปีติ คือ ความปลาบปลื้มใจเป็นขณะ ๆ ซึ่งมีสภาพผุดขึ้นเป็นพักๆ เหมือนสายฟ้าแลบ แต่เกิดขึ้นได้บ่อยครั้ง
๓. โอกกันติกาปีติ คือ ความปลาบปลื้มใจจนโยกโคลง ซึ่งมีสภาพซึมซาบไปทั่วร่างกาย ถึงกับทำให้ร่างกายไหวโยกโคลงไปมาได้
๔. อุพเพงคาปีติ คือ ความปลาบปลื้มใจจนตัวลอย ซึ่งมีสภาพทำให้เกิดอาการเบา จนสามารถทำให้ตัวลอยขึ้นไปในอากาศได้ หรือลอยจากเบื้องบนลงมาสู่ภาคพื้นเบื้องต่ำได้ เช่น พระวักกลิเถระ ที่น้อมกายถวายบังคมพระพุทธเจ้า ลอยตัวลงมาจากภูเขาคิชฌกูฏ เพราะเกิดความปีติยินดีที่พระพุทธเจ้าตรัสเรียกหา เมื่อขณะที่ลอยตัวลงมาใกล้จะถึงภาคพื้นแล้ว ก็ข่มปีติไว้ได้ และพิจารณาความเกิดและความดับไปของปีติ โดยความเป็นไตรลักษณ์ เมื่อเท้าถึงพื้นดินก็ได้บรรลุเป็นพระอรหันต์
๕. ผรณาปีติ คือ ความปลาบปลื้มใจจนแผ่ซ่าน มีสภาพเอิบอาบซาบซ่านไปทั่วร่างกาย เหมือนสูบเติมลม ย่อมถ่ายลมให้เข้าไปสู่วัตถุรับลมโดยลำดับจนแน่นตึง หรือเปรียบเหมือนหลืบแห่งภูเขาที่ห้วงน้ำใหญ่ไหลเข้าไปซึมซาบจนเต็มเปี่ยม [ถ้ำใต้ภูเขาที่อยู่ติดแม่น้ำหรือทะเล เมื่อน้ำขึ้นมาแล้วก็จะไหลซึบซาบเข้าไปทั่วทุกซอกของถ้ำนั้น จนเต็มเปี่ยมโดยไม่ปล่อยให้มีช่องอากาศว่างอยู่เลย]
ปีติที่เข้าถึงความเป็นองค์ฌาน ได้แก่ ผรณาปีติ ส่วนปีติ ๔ อย่างข้างต้นนั้น ยังไม่นับว่าเป็นองค์ฌาน เพราะยังมีสภาพหยาบและมีกำลังน้อยอยู่