ไปยังหน้า : |
๑. ติเหตุกอุกกัฏฐกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่ได้กระทำให้ครบบริบูรณ์ด้วยเจตนาทั้ง ๓ กาล คือ บุพพเจตนา มุญจนเจตนา และอปรเจตนา โดยไม่มีความบกพร่อง คือ ไม่มีอกุศลเจตนาเข้ามาเบียดเบียนเลย
๒. ติเหตุกโอมกกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่กระทำด้วยความบกพร่องแห่งเจตนา ๓ กาล คือ บุพพเจตนา มุญจนเจตนา และอปรเจตนา กาลใดกาลหนึ่ง หรือทั้ง ๓ กาล โดยมีอกุศลเจตนาเข้ามาเบียดเบียนให้อ่อนกำลังลง
๓. ติเหตุกอุกกัฏฐุกกัฏฐกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่ไปยึดเอาติเหตุกอุกกัฏฐกุศลที่ได้เคยทำไปแล้วมาเป็นอารมณ์ แล้วอปราปรเจตนาที่เกิดขึ้นภายหลังนั้น ยังความภาคภูมิใจให้เกิดขึ้นอย่างบริบูรณ์ และยังศรัทธาให้เต็มเปี่ยมเหมือนเดิม หรือเพิ่มพูนมากยิ่งกว่าเดิม
๔. ติเหตุกอุกกัฏโฐมกกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่ไปยึดเอา ติเหตุกอุกกัฏฐกุศลที่ได้เคยทำไปแล้วมาเป็นอารมณ์ แต่มีเหตุปัจจัยบางประการมาบั่นทอนให้กุศลเจตนานั้นอ่อนกำลังลง
๕. ติเหตุกโอมกุกกัฏฐกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่ไปยึดเอา ติเหตุกโอมกกุศลที่ได้เคยทำไปแล้วมาเป็นอารมณ์ แต่เมื่อนึกถึงแล้ว ย่อมทำให้เกิดความภาคภูมิใจ มีศรัทธาเลื่อมใสขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม เนื่องจากได้พิจารณาเห็นเหตุปัจจัยอันเหมาะสมเข้ามาพลิกผันให้เกิดความภาคภูมิใจขึ้น
๖. ติเหตุกโอมโกมกกุศล หมายถึง มหากุศลญาณสัมปยุตตจิตที่ไปยึดเอา ติเหตุกโอมกกุศลที่ได้เคยทำไปแล้วมาเป็นอารมณ์ และเมื่อนึกถึงแล้วยิ่งทำให้กุศลเจตนานั้นอ่อนกำลังลงไปอีก จนแทบไม่มีกุศลเจตนาเหลืออยู่เลย