ไปยังหน้า : |
วิธีเจริญอานาปานสติ
จตุกกะที่ ๑
๑. เมื่อหายใจเข้ายาว ก็รู้ว่า หายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ว่าหายใจออกยาว
๒. เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ว่า หายใจเข้าสั้น เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ว่า หายใจออกสั้น
๓. ย่อมสำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้หายใจเข้าและหายใจออก ทั้งหมดโดยชัดแจ้งทั้งต้นลม กลางลม และปลายลม
๔. ย่อมสำเหนียกว่า เราจะทำลมเข้า และลมออก ที่หยาบให้ละเอียดแล้ว จึงหายใจเข้า และหายใจออก
จตุกกะที่ ๒
๑. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งปีติหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งปีติหายใจออก
๒. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งสุขหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งสุขหายใจออก
๓. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งจิตสังขารหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้รู้ชัดซึ่งจิตสังขารหายใจออก
๔. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้ระงับจิตสังขารหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้ระงับจิตสังขารหายใจออก
จตุกกะ ที่ ๓
๑. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิตหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้กำหนดรู้จิตหายใจออก
๒. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้ยังจิตให้บันเทิงยิ่งหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้ยังจิตให้บันเทิงยิ่งหายใจออก
๓. สำเหนียกว่า เราจักตั้งจิตมั่นหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักตั้งจิตมั่นหายใจออก
๔. สำเหนียกว่า เราจักเปลื้องจิตหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเปลื้องจิตหายใจออก
จตุกกะ ที่ ๔
๑. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นว่าไม่เที่ยงหายใจออก
๒. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความคลายไปหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความคลายไปหายใจออก
๓. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความดับไปหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความดับไปหายใจออก
๔. สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละทิ้งไปหายใจเข้า สำเหนียกว่า เราจักเป็นผู้พิจารณาเห็นความสละทิ้งไปหายใจออก